แบบลักษณะเฉพาะของแบริ่งส์

Last updated: 29 พ.ค. 2557  |  20601 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แบบลักษณะเฉพาะของแบริ่งส์

     แบริ่งส์โดยทั่วๆ ไปแล้วจะประกอบด้วยวงแหวน 2 วง, เม็ดลูกกลิ้ง, และรังแบริ่งส์กันรูนนั้นขึ้นอยู่กับทิศทางของแรงหลักที่กระทำ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับชนิดเม็ดลูกกลิ้ง โดยแบ่งเป็น แบริ่งส์เม็ดกลมหรือแบริ่งส์เม็ดหมอน แบริ่งส์ยังสามารถแบ่งออกไปได้อีก ซึ่งแบ่งตามการออกแบบ หรือวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างไป แบริ่งส์ที่ใช้กันโดยทั่วไป และการกำหนดชื่อส่วนต่างๆ ของแบริ่งส์ ซึ่งแสดงดังรูปภาพด้านล่าง                                
                                
คุณลักษณะเฉพาะของแบริ่งส์
     เมื่อเปรียบเทียบแบริ่งส์เม็ดลูกกลิ้ง กับ แบริ่งส์กาบ แบริ่งส์เม็ดลูกกลิ้งมีข้อดีหลักๆ อยู่ดังนี้                                
       1 แรงบิด หรือความเสียดทานเบื้องต้น มีค่าต่ำและความแตกต่างระหว่างแรงบิดเริ่มต้นกับแรงบิดขณะหมุนมีน้อย
       2 แบริ่งส์ที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาดทั่วโลก และสามารถใช้แทนกันได้ เนื่องจากมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
       3 การตรวจสอบ, การเปลี่ยน, การบำรุงรักษาทำได้ง่ายเนื่องจากโครงสร้างที่ล้อมรอบตลับแบริ่งส์ไม่มีความซับซ้อนมาก
       4 แบริ่งส์สามารถรับแรงแนวรัศมีและแรงแนวแกนได้พร้อมๆกัน หรือเป็นอิสระจากกันก็ได้
       5 สามรถใช้แบริ่งส์กับช่วงอุณหภูมิที่กว้าง                                
       6 สามารถทำพรีโหลดกับแบริงส์ เพื่อลดช่องว่างภายใน และเพิ่มความแข็งเกร็งและยิ่งไปกว่านั้น แบริ่งส์ในแต่ละแบบมีข้อดีโดดเด่นไปเฉพาะตัว                                 
        
                        

เรามาดู แบบและลักษณะเฉพาะของแบริ่งส์ กันเลย                                
                


แบริ่งส์เม็ดกลมล่องลึกแถวเดียว

     แบริ่งส์เม็ดกลมร่องลึกแถวเดียวเป็นแบริ่งส์ที่ธรรมดาสามัญมากที่สุด มีการนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางร่องรางวิ่งของทั้งวงแหวนในและนอกมีลักษณะเป็นวงโค้ง ซึ่งรัศมีโตกว่าของเม็ดบอล นอกเหนือจากแรงในแนวรัศมีที่รับได้แล้ว ยังสามารถรับแรงในแนวแกนได้ทั้งสองทิศทางด้วย ในงานที่ต้องการความเร็วสูงและสูญเสียพลังงานต่ำ แบริ่งส์ชนิดนี้จะเหมาะสมมาก เนื่องจากแรงบิดต่ำ แบริ่งส์นี้มีทั้งแบบเปิด ฝาเหล็ก ซีลยาง ซึ่งอาจติดตั้งทั้งสองด้านของแบริ่งส์ โดยภายในบรรจุจาระบีเอาไว้ ในบางครั้งอาจมีแหวนล็อค อยู่ที่ผิวนอกวงแหวนนอก รังที่ใช้โดยมากเป็นรังเหล็ก                                

 


แบริ่งส์แม็กนีโต

      ร่องรางวิ่งของแบริ่งส์แม็กนีโตจะแคบกว่าของแบริ่งส์เม็ดกลมแถวเดียวเล็กน้อย วงแหวนนอกมีบ่าอยู่เพียงด้านเดียว ซึ่งอาจแยกวงแหวนนอกออกได้ จุดนี้จะทำให้การติดตั้งทำได้ง่ายโดยทั่วไปใช้แบริ่งส์ชนิดนี้ 2 ตัวมาทำการประกบคู่ แบริ่งส์แม็กนีโตเป็นแบริ่งส์ขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางวงแหวนในประมาณ 4 มม. ถึง 20 มม. โดยส่วนใหญ่ใช้ในแม็กนีโตขนาดเล็กไจโรสโคป และอุปกรณ์ต่างๆ โดยมากใช้รังทองเหลือง                                             
 


แบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม

 
      แบริ่งส์แบบนี้สามารถรับแรงในแนวรัศมีและแนวแกนได้ทิศทางเดียว มุมสัมผัสมีทั้ง 15 25 30 40 องศา มุมสัมผัสยิ่งมากก็ยิ่งสามารถรับแรงในแนวแกนได้มาก ค่ามุมสัมผัสน้อยเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง โดยทั่วไปมักใช้แบริ่งส์ชนิดนี้เป็นคู่ โดยจะมีการปรับช่องว่างภายในอย่างเหมาะสม มักใช้รังเหล็กสำหรับงานทั่วไป สำหรับแบริ่งส์ที่มีความเที่ยงตรงสูงจะมีมุมสัมผัสน้อยกว่า 30 และใช้รังโพลียามายด์
 

 
แบริ่งส์ประกบคู่
 
     การนำแบริ่งส์แนวรัศมี 2 ตลับมารวมกันในการใช้งานเราเรียกว่าการประกบคู่ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้แบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม หรือแบริ่งส์เทเปอร์มาทำการประกอบ การประกบคู่ทำได้ทั้งแบบหน้าชนหน้า ซึ่งวงแหวนนอกหันหน้าชนกัน (แบบ DF) แบบหลังชนหลัง (แบบ DB) หรือหันหน้าเรียงตามกัน ในทิศทางเดียว (DT) การประกบแบบ DF และ DB สามารถรับแรงแนวรัศมีและแนวแกนได้สองทิศทาง แบบ DT จะใช้เมื่อมีแรงในแนวแกนแรงหนึ่งซึ่งมีค่าสูงมากในทิศทางเดียว จึงจำเป็นต้องกำหนดให้รับแรงเท่ากันในแบริ่งส์แต่ละตัว
                                


แบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมสองแถว

 
       แบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมสองแถวนั้น โดยพื้นฐานแล้วคือแบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมแถวเดียวติดตั้งแบบหลังชนหลัง ต่างกันที่แบบสองแถวนั้นมีวงแหวนในหนึ่งวง วงแหวนนอกหนึ่งวง และแต่ละวงมีรางวิ่งของตัวเองแบริ่งส์แบบนี้สามารถรับแรงแนวแกนได้สองทิศทาง
                    
                                

 
แบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมสี่จุด
                             
       แบริ่งส์สัมผัสเชิงมุมสี่จุดนั้น วงแหวนในและวงแหวนนอกแยกออกจากกันได้ เนื่องจากในวงแหวนในแยกออกจากกันในระนาบรัศมี สามารถรับแรงในแนวแกนได้ สองทิศทาง ลูกกลิ้งทำมุม 35 องศา กับวงแหวนแต่ละวงแบริ่งส์สัมผัสเชิงมุมสี่จุด เพียงหนึ่งตลับเท่านั้นที่สามารถทดแทนแบริ่งส์เม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมแถวเดียวที่ประกบแบบหน้าชนหน้า หรือหลังชนหลัง รังที่ใช้ทั่วไปมักเป็นทองเหลืองกลึงขึ้นรูป
                                

 
แบริ่งส์เม็ดกลมปรับแนวได้เอง
                         
     วงแหวนในมีสองรางวิ่ง และวงแหวนนอกมีรางวิ่งลักษณะโค้ง อยู่หนึ่งราง วิ่ง ซึ่งจุดศูนย์กลางของความโค้งเป็นจุดเดียวกับแนวแกนของแบริ่งส์ นั่นคือแนวแกนของวงแหวนใน เม็ดลูกกลิ้งและรังสามารถหันเหได้รอบศูนย์กลางของแบริ่งส์ ดังนั้น การเยื้องแนวมุมเล็กๆ น้อยๆ ของเพลาและตัวเสื้อ ที่ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกลึงไส หรือการติดตั้งที่ไม่ดีพอนั้นสามารถแก้ไขได้โดยอัตโนมัติ แบริ่งส์ชนิดนี้มักมีรูเพลาเอียงไว้สำหรับใช้กับปลอกปรับขนาด
 


แบริ่งส์เม็ดทรงกระบอก

                         
      แบริ่งส์แบบนี้เม็ดลูกกลิ้ง ซึ่งมีลักษณะทรงกระบอกยาวจะสัมผัสเป็นเส้นตรงกับรางวิ่ง มีความสามารถในการรับแรงในแนวรัศมีได้สูง และเหมาะกับงานความเร็วสูง ลักษณะของแบริ่งส์มีหลายแบบทั้ง NU NJ NUP N NF สำหรับแบริ่งส์แถวเดียว และ NNU NN สำหรับแบริ่งส์สองแถว วงแหวนนอก และวงแหวนในของทุกแบบสามารถถอดแยกได้ แบริ่งส์เม็ดทรงกระบอกบางแบบไม่มีโครง หรือสันขอบ ที่วงแหวนใน หรือวงแหวนนอกดังนั้นวงแหวนสามารถเคลื่อนที่ตามแนวแกนได้ เมื่อเทียบกับอีกวงหนึ่ง (เคลื่อนที่สัมพัทธ์กัน) ซึ่งสามารถใช้เป็นตลับลูกที่ไม่กำหนดตำแหน่ง แบริ่งส์เม็ดทรงกระบอกไม่ว่าวงแหวนในหรือนอกมีโครง 2 ด้าน หรือวงแหวนหนึ่งมีหนึ่งด้านก็สามารถรับแรงในแนวแกนได้ทิสทางเดียว แบริ่งส์เม็ดทรงกระบอก 2 แถว มีความแข็งเกร็งแนวรัศมีสูง และใช้กับเครื่องมือกลที่มีความเที่ยงตรงสูงปกติทั่วไปแล้วจะใช้รังเหล็ก หรือทองเหลืองกลึงขึ้นรูปแต่ในบางครั้งก็ใช้รังโพลียามายด์หล่อขึ้นรูป                                
 


แบริ่งส์เม็ดเข็ม

 
แบริ่งส์ประกอบด้วยลูกกลิ้งเม็ดเรียวยาวมีขนาดความยาวประมาณ 3 ถึง 10 เท่าของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอัตราส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางนอก ต่อเส้นผ่านศูนย์กลางวงกลมใน มีค่าน้อย มีความสามารถในการแรงในแนวรัศมีค่อนข้างสูงแบริ่งส์ชนิดนี้มีหลายแบบให้เลือก โดยมากไม่มีวงแหวนใน แบริ่งส์แบบ drawn-cup นั้นมีวงแหวนนอกเป็นเหล็กปั๊ม ส่วนแบบ solid type ผลิตจากเหล็กกลึงขึ้นรูปยังมีแบริ่งส์ที่เรียกโดยทั่วไปว่าแบริ่งส์กรงนรก ซึ่งจะไม่มีวงแหวนทั้งในและนอกมาด้วยมีเพียงรังและเม็ดลูกกลิ้งเท่านั้น รังเป็นเหล็กปั๊มขึ้นรูปแต่ในบางแบบจะไม่มีรัง  
 


แบริ่งส์เทเปอร์

 
      แบริ่งส์ชนิดนี้ใช้เม็ดลูกกลิ้งเป็นรูปกรวย มีตัวนำร่องคือโครงของขอบวงแหวนด้านใน แบริ่งส์เทเปอร์สามารถรับแรงแนวรัศมีได้สูง และรับแรงในแนวแกนได้ทิศทางเดียว ในอนุกรม HR มีการเพิพ่มขนาดและจำนวนเม็ดลูกกลิ้ง ทำให้สามารถรับแรงได้สูงขึ้นไปอีก การใช้งานโดยทั่วไปมักจะใช้เป็นคู่ คล้ายกับแบริ่งส์สัมผัสเชิงมุมแถวเดียว ซึ่งจะมีการปรับช่องว่างภายในแบริ่งส์ให้เหมาะสมโดยการปรับระยะแนวแกนระหว่างวงแหวนในหรือวงแหวนนอก ของแบริ่งส์ที่ประกบกันทั้ง 2 ตลับ วงแหวนในและวงแหวนนอกสามารถแยกประกอบได้อย่างอิสระ แบริ่งส์ชนิดนี้แบ่งออกเป็น 3 แบบตามมุมสัมผัสได้ดังนี้มุมปกติ มุมปานกลาง และมุมชัน อีกทั้งยังมีแบบสองแถวและสี่แถวให้เลือกใช้อีกด้วย รังที่ใช้โดยมากจะเป็นรังเหล็กปั๊มขึ้นรูป                                
 

 
แบริ่งส์เม็ดโค้ง
 
     แบริ่งส์ชนิดนี้เม็ดแบริ่งส์มีลักษณะคล้ายถังไม้โค้ง หรือเรียกว่า barrel shaped roller อยู่ระหว่างวงแหวนในซึ่งมีสองรางวิ่ง และวงแหวนนอกซึ่งมีหนึ่งรางวิ่ง การที่ศูนย์กลาง ความโค้งของผิวหน้ารางวิ่งของวงแหวนนอก เป็นจุดเดียวกับแกนของแบริ่งส์ทำให้แบริ่งส์ปรับแนวได้เอง ดังนั้น หากเพลาหรือแบริ่งส์เกิดโก่งตัว หรือเกิดการ                                
เยื้องแนวจากแนวแกน ก็จะสามารถปรับตัวเองได้โดยอัติโนมัติ ทำให้ไม่เกิดแรงที่สูงเกินไปมากระทำต่อแบริ่งส์ แบริ่งส์เม็ดโค้งนั้นไม่เพียงแต่สามารถรับแรงแนวรัศมีได้สูง แต่ยังสามารถรับแรงในแนวแกนได้สองทิศทางอีกด้วย มีความสามารถในการรับแรงแนวรัศมีได้อย่างดีเยี่ยม และเหมาะสำหรับการใช้งานที่มีแรงกระทำ หรือกระแทกสูงๆ บางแบบอาจมีรูในเอียง ซึ่งอาจใช้ติดตั้งโดยตรงบนเพลาเอียงหรือติดตั้งบนเพลาตรง โดยใช้ปลอกปรับขนาด หรือปลอกสวม ปกติใช้เหล็กปั๊มขึ้นรูปรังโพลียามายด์หล่อ และรังทองเหลืองกลึงขึ้นรูป                                

 


แบริ่งส์เม็ดกลมกันรุนทิศทางเดียว

 
      แบริ่งส์เม็ดกลมกันรุนรับแรงทิศทางเดียวประกอบด้วยวงแหวนที่มีลักษณะคล้ายแหวนรอง มีร่องรับแรงทิศทางเดียว รางวิ่งวงแหวนที่สวมติดกับเพลาเรียกว่า แหวนรองเพลา หรือวงแหวนใน ส่วนวงแหวนที่สวมติดกับตัวเสื้อ เรียกว่าวงแหวนรองตัวเสื้อ หรือวงแหวนนอก สำหรับแบริ่งส์กันรุนเม็ดกลมกันรุนรับแรงสองทิศทางนั้นจะมีวงแหวนสามวง วงแหวนกลาง จะสวมติดกับเพลา ยังมีแบริ่งส์เม็ดกลมกันรุนที่มีแหวนรองปรับแนวได้เองอีกด้วย ซึ่งแหวนนี้จะอยู่ส่วนล่างของแหวนรองตัวเสื้อ เพื่อรับการเยื้องแนวของเพลา หรือการติดตั้งที่ไม่พอดี โดยปกติแล้วจะใช้รังเหล็กปั๊มขึ้นรูปในแบริ่งส์ขนาดเล็ก และรังกลึงขึ้นรูป ใช้กับแบริ่งส์ขนาดใหญ่                                
 


แบริ่งส์เม็ดกลมกันรุนรับแรงสองทิศทาง
                                
                                
                


แบริ่งส์เม็ดโค้งกันรุน

  
                             
     แบริ่งส์ชนิดนี้มีรางวิ่งโค้งหนึ่งราง อยู่ที่แหวนรองตัวเรือน และมีเม็ดลูกกลิ้งรูปโค้งวางเรียงอยู่โดยรอบรางวิ่งที่มีลักษณะโค้งของแหวนรองตัวเสื้อนี้นั้นทำให้แบริ่งส์ปรับแนวได้เอง และสามารถรับแรงในแนวแกนที่สูงมากๆได้ทั้งยังสามารถรับแรงในแนวรัศมีได้ปานกลาง ในขณะที่รับแรงในแนวแกนอยู่ด้วยโดยทั่วไปใช้รังเหล็กปั๊มขึ้นรูปหรือรังทองเหลืองกลึงขึ้นรูป


ตารางแบบและลักษณะเฉพาะของแบริ่งส์

 


   

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้